วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2563
วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2563
เคล็ดลับดูแลผิวให้สวยใสมีออร่า ตามกรุ๊ปเลือด
PEELY AURA
เมษายน 05, 2563
0 Comments
คนที่มีกรุ๊ปเลือดต่างกัน ก็มีผิวพรรณที่แตกต่างกันไป สิ่งที่สาวๆ ควรทำ ก็คือการเลือกผลิตภัณฑ์ และวิธีการดูแลผิว ให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน เพื่อความสวยใส ที่สมบูรณ์แบบ ทุกคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าตัวเองมีกรุ๊ปเลือดอะไร … ถ้ารู้แล้ว ก็ลองไปเช็คพร้อมๆกันเลย
คนที่มีเลือดกรุ๊ป A จะเป็นคนที่มีรูขุมขนเล็ก ทำให้ไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์ หรือรองพื้นเพื่อปกปิดผิวที่ไม่เรียบเนียน เหมือนกับสาวเลือดกรุ๊ปอื่นๆ แต่สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ สำหรับสาวกรุ๊ปเอ ก็คือพวกโลชั่น หรือครีมบำรุงผิว เพราะคนกรุ๊ปนี้ จะมีผิวพรรณ ที่ค่อนข้างแห้ง ถ้าขาดมอยเจอร์ไรเซอร์เมื่อไหร่ ผิวได้แห้งแตกเป็นขุยแน่ๆ
สาวเลือดกรุ๊ป Bผิวพรรณของสาวเลือดกรุ๊ป B เป็นผิวที่ค่อนข้างแพ้ง่าย เพราะฉะนั้น เวลาเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ก็ควรจะเลือกแบบที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ ไม่ผสมน้ำหอม เพราะมันจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย แล้วก็ต้องระวังเรื่องการสครับผิว ขัดผิวด้วย เพราะถ้าโดนของสากๆ ขัดบ่อยๆ ผิวเราจะแดงอาจเกิดอาการเจ็บแสบ หรือคันขึ้นมาได้ ต้องจำไว้ว่าเราเป็นคนผิวบอบบาง ขอแนะนำว่าถ้าอยากจะกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ให้เลือกเป็นพวก Peeling จะดีกว่า เพราะไม่ต้องเสี่ยงกับการทำให้ผิวระคายเคืองค่ะ
สาวเลือดกรุ๊ป AB
สาวที่มีเลือดกรุ๊ป เอบี เป็นคนที่ผิวไวต่อแดด โดนแดดหน่อยเดียว ก็ผิวคล้ำซะแล้ว แต่ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะถึงจะคล้ำเร็ว แต่ก็กลับมาขาวเร็วเหมือนกัน ควรใช้ผลิตภัณฑ์ ประเภทโทนเนอร์ และผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าต่างๆ หรือจะพอกหน้าด้วยไข่ขาว และน้ำผึ้ง ก็เป็นสูตรยอดนิยม ที่หลายคนแนะนำกันเลยนะ
สาวเลือดกรุ๊ป O
ผิวของสาวเลือดกรุ๊ป O นั้นค่อนข้างมัน แล้วก็เป็นคนที่มีรูขุมขนกว้าง เหงื่อออกเยอะ ควรจะพกกระดาษซับมันติดตัวเอาไว้ รวมไปถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณสมบัติควบคุมความมัน โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนต่อสภาพผิว และสกินแคร์จำพวกครีมกันแดด เพราะเป็นคนที่มีผิวไวต่อแดดด้วย เคล็ดลับที่สำคัญอีกอย่างคือการนอนหลับพักผ่อน สาวเลือดกรุ๊ปโอ ถ้าอยากหน้าเด้ง หน้าใส ต้องนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวัน แล้วก็อย่านอนดึกเกินเที่ยงคืน เพราะเวลาช่วงนั้น จะเป็นตอนที่ผิวพรรณกำลังฟื้นฟูตัวเองอยู่ ถ้าลองสังเกตดูดีๆ วันไหนนอนเต็มอิ่ม ตื่นมาจะหน้าใสเด้งสุดๆ ไปเลย
https://peelyaurambasun17.blogspot.com/p/blog-page_3.html
https://peelyaurambasun17.blogspot.com/p/blog-page_3.html
ผู้ชายชอบมองตรงไหน!!
PEELY AURA
เมษายน 05, 2563
0 Comments
จุดน่ามองในร่างกายของคุณผู้หญิง หน้าอก, หุ่น, เรียวขา, ใบหน้า, ผิวพรรณ สมบูรณ์แบบเป็นสิ่งที่ดี เพราะสิ่งเหล่านี้จะสามารถดึงดูดเพศตรงข้ามได้ หรือแม้แต่เพศเดียวกัน เพราะเดี๋ยวนี้เดินไปไหนมาไหน มักเห็นสาวๆ ที่รักและดูแลตัวเองได้อย่างดี ถึงแม้จะไม่ได้มีดีทั้งตัว แต่ก็จะมีจุดเด่นให้ได้เหลียวมอง หัวจดเท้าที่คุณผู้ชายชอบมองที่สุด มันจริงมั้ยไปดูกัน
1. หน้าอก หน้าอก มันเป็นสัดส่วนที่บ่งบอกความเป็นผู้หญิง คุณผู้ชายเลยชอบมองมากเป็นพิเศษ พูดอย่างนี้แล้วคุณผู้หญิงที่ไซส์เล็กตามสไตล์สาวไทยนี่ไม่ต้องตกใจไป เพราะเราก็มีเสน่ห์ในแบบของเราได้ค่ะคุณ ส่วนคุณผู้ชายที่เขาชอบอึ๋มๆ นั้น ก็ปล่อยเขาไป
2. หุ่น หนุ่มๆ ชอบมองสาวหุ่นดี เซลลูไลท์น้อย รูปร่างสมส่วน และถ้ายิ่งมีส่วนเว้าส่วนโค้งล่ะก็ มันน่าดึงดูดใจดีแท้ ผอมไม่ใช่ผอมจนเห็นกระดูกโปนออกมา หรืออ้วน ไม่ใช่อ้วนจนมองไม่เห็นว่ากระดูกอยู่ตรงไหน หุ่นดี คือสมส่วน สามารถสวมเสื้อผ้าได้หลายแบบ ไม่อึดอัด ใส่ชุดไหนก็ดูสวยดี เข้ารูปเข้าทรงพอเหมาะพอดี
3. หน้าตา, รอยยิ้ม มันคือสิ่งแรกๆ ที่ผู้ชาย หรือผู้หญิงด้วยกันมักเลือกมองก่อน ตาโต ปากนิดจมูกหน่อยนี่เข้าแก๊ปเลย สวยน่ารักน่ามอง คนที่หน้าตาดีคือมีทุกอย่างที่ลงตัวบนใบหน้า และความสวยของคนเราก็แตกต่างกันไป ตามความชอบหรือสเปกหนุ่มๆ เพราะผู้ชายบางคนก็ชอบหมวย บางคนชอบหน้าคม บางคนชอบมีแก้ม บางคนชอบผู้หญิงตาโต ก็ตามแต่ความชอบกันไป แต่เราขอแอบเพิ่มสิ่งที่ผู้ชายชอบมองอีกอย่าง คือรอยยิ้มที่จริงใจของสาวๆ ที่ยิ้มแล้วเหมือนโลกทั้งใบสดใสจนคนมองต้องยิ้มตามเลย
4. เรียวขา โอ๊ย เห็นท่อนขาเรียวยาว น่ามองเป็นไหนๆ อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย ผู้หญิงด้วยกันอย่างเรายังรู้สึกว่าขาเป็นอวัยวะส่วนที่มีเสน่ห์ไม่น้อยเลย ยิ่งเวลาใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าส้นสูงเข้าให้แล้วนั้น ยิ่งน่ามอง ส่วนขาที่ดูน่ามอง ต้องเรียวยาว เรียบเนียน ไร้ขน ท่อนขาด้านบนและท่อนขาด้านล่างขนาดพอๆ กัน ไม่หนีห่างกันมาก
5. ก้น ก้นฟีบ ลีบ แบน.. ไม่น่ามองเท่าสาวมีก้นกลมกลึง กระชับ ไม่งั้นจะมีการออกกำลังปั้นก้น ที่เรียกว่า สควอท เกิดขึ้นบนโลกนี้ได้อย่างไร หลังจากคุณสาวๆ หันมาให้ความสำคัญกับการปั้นก้น เพราะการมีก้นสวยจะยิ่งทำให้ใส่กางเกงหรือชุดอะไรก็ดูดี และยิ่งถ้ามีเอวเว้าโค้งเข้าแล้ว จะยิ่งทำให้การมองเห็นก้นกลมกลึงง่ายขึ้นไปอีก
6. ผิว ผิวขาวนวล ชวนให้หนุ่มๆ มองไปอีก อย่าว่าแต่หนุ่มๆ เลย สาวๆ เองยังอยากขาวมีออร่าเลย แต่สมัยนี้ใครหลายคนก็หันมาให้ความสำคัญกับสาวผิวแทนๆ ไม่น้อย เพราะผิวแทนก็ดูสุขภาพดี กระนั้นแล้วการที่ไม่ว่าจะมีผิวสีอะไรก็ตาม ขอให้ดูสะอาด เรียบเนียน ไม่สกปรกเป็นพอ
วันเสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2563
SPF กับ PA มันคืออาไรน๊า
PEELY AURA
เมษายน 04, 2563
0 Comments
ค่า SPF กับค่าPAอะไรนี่ อันไหนดีกว่ากัน?
คุณสมบัติการป้องกันแตกต่างกันนะคะ
- SPF เอาไว้ป้องกันรังสี UVB
- PA เอาไว้ป้องกันรังสี UVA
ค่า SPF ย่อมาจากคำว่า Sun Protecting Factor ซึ่งก็คือค่าป้องกันแสงแดด ซึ่งผิวของคนเราจะมีความแตกต่างกัน บางคนตากแดดเพียง10 นาที ผิวก็เริ่มแดง แต่บางคนอาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น ส่วนค่าตัวเลขต่อท้าย คำว่า SPF นั้นสามารถนำมาคำนวณระยะเวลา (เป็นนาที) ในการปกป้องผิวหนังของเราจากรังสี UVB โดยนำตัวเลขส่วนท้ายคูณด้วย 30 ผลลัพธ์ที่ได้หมายถึงจำนวนนาทีที่ครีมกันแดดชนิดนั้นจะป้องกัน UVB ได้ เช่นค่าครีมกันแดด SPF50 นำเอา 50 x 30 = 1,500 หมายถึง ครีมกันแดดชนิดนี้ สามารถป้องกันรังสี UVB ได้ 1,500 นาที
ค่า PA ทำไมต้องมีเครื่องหมายบวก +++ ?
PA+ สามารถในการป้องกันผิว จากรังสี UVA ได้ 2เท่า
PA++ สามารถในการป้องกันผิว จากรังสี UVA ได้ 4เท่า
PA+++ สามารถในการป้องกันผิว จากรังสี UVA ได้ 8 เท่า
แล้ว! เราควรจะใช้ครีมกันแดด ที่มีค่า PA เท่าไหร่ถึงจะช่วยป้องกันแสงแดดและแสงต่างๆได้ดี?
ค่า PA ทำไมต้องมีเครื่องหมายบวก +++ ?
PA+ สามารถในการป้องกันผิว จากรังสี UVA ได้ 2เท่า
PA++ สามารถในการป้องกันผิว จากรังสี UVA ได้ 4เท่า
PA+++ สามารถในการป้องกันผิว จากรังสี UVA ได้ 8 เท่า
แล้ว! เราควรจะใช้ครีมกันแดด ที่มีค่า PA เท่าไหร่ถึงจะช่วยป้องกันแสงแดดและแสงต่างๆได้ดี?
อันตรายจากแสงแดด
PEELY AURA
เมษายน 04, 2563
0 Comments
แสงแดดจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่แสงแดดก็ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพผิวได้เช่นกัน นั่นคือ ทำให้เกิดความผิดปกติของสีผิว เช่น ฝ้า กระ ทำให้ผิวไหม้เกรียม ทำให้ภูมิคุ้มกันที่ผิวลดลง เกิดการแพ้แดด ทำให้ผิวมีริ้วรอย เหี่ยวย่นแก่ก่อนวัยและทำให้เกิดมะเร็งของผิวหนัง นอกจากนี้ยังพบว่า โรคผิวหนัง และ โรคระบบอื่นๆ หลายโรคอาจกำเริบเมื่อถูกแสงแดด เช่น โรคลมพิษจากแสงแดด โรคเอสแอลอี ตาเป็นต้อ โรคติดเชื้อเริม ฯลฯ
อันตรายจากแสงแดด
ในแสงแดดประกอบด้วยรังสีที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น มีชื่อเรียกว่ารังสีอัลตราไวโอเลต (ultraviolet) หรือรังสียูวี (UV) ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้ว่าแสงยูวี แม้เพียงเล็กน้อยในยามแดดจัด ก็สามารถทำให้คอลลาเจน (เซลล์เนื้อเยื่อของผิวหนัง) เสื่อมสภาพได้ อนุมูลอิสระเป็นผลผลิตจากการที่ร่างกายต่อสู้กับสิ่งที่มาระคายเคือง เช่น แสงแดด ฝุ่น ควัน และมลพิษต่างๆ เป็นเวลานาน ซึ่งหากหลงเหลืออยู่ในผิวหนัง สารอนุมูลอิสระนี้ก็อาจทำลายเซลล์รอบๆ ตัว ทำให้เกิดเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ส่วนใหญ่พบว่า มีความสัมพันธ์กับรังสียูวี นั่นคือ ผิวหนังถูกแสงแดดแผดเผาเป็นเวลานานนับสิบปี
UVA Rays – ย่อมาจากอัลตร้าไวโอเล็ตเอ ซึ่งอาจจะจำง่ายๆในชื่อ “UV Aging – ยูวีเอจจิ้ง” เพราะยูวีเอเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายต่อผิวระยะยาวและปัญหาเอจจิ้ง หรือก็คือผิวแก่ก่อนวัย รอยเหี่ยวย่อน ตีนกา และไฝแดดนั่นเอง
UVB Rays - ย่อมาจากอัลตร้าไวโอเล็ตบี ซึ่งอาจจะเรียกให้จำง่ายในชื่อ “UV Burning – ยูวีเบิร์นนิ่ง” เพราะมันทำให้ผิวถูกแดดเผา และไม่เหมือนกับยูวีเอเพราะยูวีความเข้มแตกต่างกันไประหว่างปี ซึ่งมะเร็งผิวหนังส่วนใหญ่เกิดจากแสงยูวีบีนั่นเอง
UVC Rays - ย่อมาจากอัลตร้าไวโอเล็ตซี ซึ่งเป็นรังสีที่รุนแรงที่สุด และสามารถทำอันตรายต่อชีวิตได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามเรายังโชคดีที่ชั้นโอโซนช่วยปกป้องรังสีชนิดนี้ไม่ให้ผ่านเข้ามาสู่ผิวโลก ดังนั้นอย่าพยายามทำลายชั้นโอโซนนะวิธีป้องกันผิวจากภัยแดด
![]() |
| PEELY AURA SPF60 PA++ |
วงการแพทย์จึงได้คิดค้นหาสารที่จะช่วยเป็นเกราะป้องกันรังสีความร้อน ในรูปแบบครีมกันแดดขึ้น เพื่อลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับผิวหนัง ดังนั้นการใช้ครีมกันแดดสำหรับยุคนี้จึงถือเป็นส่วนหนึ่งในปัจจัยที่จำเป็นในการปกป้องผิวให้ปลอดภัยจากการรุกล้ำทำลายของแสงแดดที่นับวันจะมีพิษสงรุนแรงเพิ่มขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูล:นิตยสารหมอชาวบ้าน 289
ขอขอบคุณข้อมูล:นิตยสารหมอชาวบ้าน 289
วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2563
วิธีดูแลตัวเองหลังตากแดด
PEELY AURA
เมษายน 01, 2563
0 Comments
แสงแดดแผดเผารุนแรงอย่างบ้านเรา
นอกจากจะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นแล้ว ยังทำให้ผิวหมองคล้ำ และเกิดรอยไหม้ได้ง่ายอีกด้วยค่ะ
ซึ่งบ่อยครั้งที่สาว ๆ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงกิจวัตรประจำวัน
หรือกิจกรรมกลางแจ้งที่ทำให้ผิวต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานานได้ เพราะฉะนั้นสาว ๆ
จึงจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีดูแลตัวเองหลังตากแดด
เพื่อฟื้นฟูผิวหน้าและผิวกายที่สูญเสียความชุ่มชื้นให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง
ซึ่งวิธีดูแลตัวเองหลังตากแดดที่ว่านี้จะมีเคล็ดลับอย่างไรบ้าง
ตามมาดูกันเลยค่ะ
1.
ดื่มน้ำทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป
หลังจากโดนแดดแผดเผามาทั้งวัน ผิวหน้าและผิวกายของสาว ๆ จะถูกดึงความชุ่มชื่นออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ผิวหมองคล้ำ เกิดรอยไหม้และมีอาการปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาได้ ทางที่ดีที่สุดสาว ๆ ควรดื่มน้ำเปล่าหรือดื่มน้ำผลไม้สด อย่างน้ำมะพร้าว น้ำแตงโม น้ำมะนาว หรือน้ำส้มคั้นสด ๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป
2. งดขัดผิวหลังตากแดด
ผิวกายของสาว ๆ
เมื่อโดนแดดเป็นเวลานาน ๆ อาจจะทำให้มีอาการปวดแสบปวดร้อน
หรือมีรอยแดงที่ผิวหนังได้ ดังนั้นเวลาอาบน้ำสาว ๆ ควรถูผิวกายอย่างเบามือที่สุด
และให้งดการขัดผิวในช่วง 1-2
อาทิตย์แรกหลังจากตากแดด
เพราะ หากขัดผิวอีกจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมผิวอย่างรุนแรงมากขึ้น
3.
บำรุงผิวหน้าหมองคล้ำจากแดด
ด้วยว่านหางจระเข้
แน่นอนว่าใบหน้าของสาว ๆ คือส่วนแรกที่ต้องสัมผัสกับแสงแดดเป็นประจำทุกวัน จนอาจทำให้หมองคล้ำและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย วิธีดูแลและซ่อมแซมผิวหน้าหลังตากแดดเป็นเวลานาน ๆ ให้กลับมาชุ่มชื้นเหมือนเดิม มีวิธีง่าย ๆ เพียงสาว ๆ นำเจลว่านหางจระเข้มาทาทิ้งไว้บนใบหน้าเป็นเวลาประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก ความเย็นของเจลว่านหางจระเข้จะซึมลึกลงไปถึงชั้นผิวหนัง ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า และช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนจากการที่ผิวถูกแสงแดดเผาไหม้เป็นเวลานานได้ดีอีก
4. บำรุงผิวคล้ำเสียจากแดดด้วยครีมบำรุงผิวหรือโยเกิร์ต
ผิวที่ตากแดดจนดำคล้ำ ต้องการการบำรุงมากเป็นพิเศษเพื่อให้ผิวกลับมาชุ่มชื่นได้เหมือนเดิม สาว ๆ สามารถบำรุงผิวหลังตากแดดได้ด้วยวิธีง่าย ๆ โดยใช้วิธีนำโยเกิร์ตมาทาทิ้งไว้ที่บริเวณผิวที่โดนแดดประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออก ก็จะช่วยบำรุงให้ผิวกายของสาว ๆ กลับมาเนียนนุ่มน่าสัมผัสได้อีกครั้งค่ะ
5. รักษารอยไหม้ที่ผิวกายด้วยว่านหางจระเข้
เมื่อผิวหนังโดนแสงแดดแรง ๆ เป็นเวลานาน สาว ๆ จะสังเกตได้ว่าผิวกายจะดำคล้ำลงจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด หรือบางทีอาจมีรอยไหม้ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน ซึ่งมีวิธีฟื้นฟูผิวง่าย ๆ ด้วยการนำเจลว่านหางจระเข้หรือโยเกิร์ตมาทาบริเวณผิวหนังที่ดำคล้ำหรือเป็นรอยไหม้ ก็จะช่วยทำให้ผิวผ่อนคลายและรู้สึกเย็นสดชื่นขึ้น เพราะเนื้อเจลจะซึมซาบสู่ชั้นผิวหนัง เข้าไปป้องกันการคายน้ำของผิว ช่วยรักษาผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้น
6. บำรุงริมฝีปากด้วยน้ำมันมะพร้าวและลิปบาล์ม
สาว ๆ
ต้องไม่ลืมนะคะว่าริมฝีปากเมื่อถูกแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ
ก็เกิดการแห้งกร้านและดำคล้ำลงได้ง่ายเช่นเดียวกับผิวหน้าและผิวกาย
ดังนั้นควรบำรุงริมฝีปากให้กลับมานุ่มชุ่มชื่นอีกครั้งด้วยการทาน้ำมันมะพร้าวหรือลิปบาล์ม
และหากรู้ตัวว่าต้องเผชิญแสงแดดเป็นเวลานานในครั้งต่อไป สาว ๆ
ควรทาลิปสติกที่มีกันแดดสูตร SPF ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ริมฝีปากแห้งและดำคล้ำจากการถูกแสงแดดทำร้ายได้ค่ะ
หวังว่าเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับวิธีดูแลตัวเองหลังตากแดดที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำเสียของสาว ๆ ให้กลับมามีสุขภาพผิวดีได้อีกครั้งนะคะ แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมที่จะทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกครั้งก่อนออกจากบ้านด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดมาทำร้ายผิวที่เรารักได้ง่าย ๆ นั่นเองค่ะ
หวังว่าเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับวิธีดูแลตัวเองหลังตากแดดที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำเสียของสาว ๆ ให้กลับมามีสุขภาพผิวดีได้อีกครั้งนะคะ แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมที่จะทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกครั้งก่อนออกจากบ้านด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดมาทำร้ายผิวที่เรารักได้ง่าย ๆ นั่นเองค่ะ
วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2563
โทษของมะขามป้อมหากคุณไม่รู้
PEELY AURA
มีนาคม 23, 2563
0 Comments
ใช่ว่าทุกคนจะทานมะขามป้อมได้
หลายคนใช้สมุนไพรอย่างขาดความระมัดระวัง คิดว่าพอเป็นสมุนไพรแล้วปลอดภัย มาจากธรรมชาติแปลว่าไม่เป็นพิษ ไร้ผลข้างเคียง ซึ่งนั่นเป็นมายาคติที่อาจทำให้เกิดอันตรายจากการใช้สมุนไพรได้ พอเชื่อว่าสมุนไพรล้วนปลอดภัย ก็จะใช้สมุนไพรชนิดเดิมๆ กับทุกโรค ปวดหัวก็กิน เจ็บคอก็กิน ท้องเสียก็กิน เป็นแผลก็เอามาทา หรือบางทีไม่เจ็บไม่ป่วยอะไร ก็กินเพื่อบำรุง แต่สมุนไพรไม่ใช่ยาครอบจักรวาลที่มีสรรพคุณรักษาได้ทุกโรค อย่างเช่น ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะขามป้อม เนื่องจากตามหลักทฤษฎีพบว่าการรับประทานมะขามป้อมกับสมุนไพรบางชนิด เช่น ขิง บอระเพ็ด กำยาน อาจส่งผลให้การทำงานของตับในผู้ป่วยโรคไตแย่ลง ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ระมัดระวังการรับประทานมะขามป้อมเนื่องจากมะขามป้อมอาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง จึงอาจมีความจำเป็นในการปรับชนิดและขนาดยา รวมถึงผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดรับประทานมะขามป้อมอย่างน้อย 2 อาทิตย์ เพื่อความปลอดภัย
แต่ใช่ว่ามะขามป้อมจะมีแต่โทษนะ สรรพคุณของมะขามสารพัดประโยชน์เหลือเฟือ อุดมไปด้วยสารอาหารและเป็นแหล่งของวิตามินซี จัดเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพและเป็นสมุนไพร เพราะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีสูงมาก มะข้ามป้อมนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่ประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร อีกทั้งยังใช้บำรุงผิวหน้าให้ขาวสดใส ชะลอการเกิดริ้วรอย สารสกัดจากมะขามป้อม อุดมไปด้วยวิตามินซีจากธรรมชาติ และโพลีฟีนอล ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยังการทำการของเอนไซม์ไทรอกซิเนส และคอลลาจิเนส จึงช่วยปกป้องผิวจากการเสื่อมสลาย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและบำรุงผิวพรรณให้ขาว สว่าง กระจ่างใสขึ้น
ในมะขามป้อมมีสารจำเพราะคือ สาร Emblicanin ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดการทำลาบของผิวจากแสงแดดและอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ เทียบเท่าสาร SOD ที่เป็นตัวต้านอนุมูลอิสระในร่างกายมนุษย์ โดนสารสกัดจากมะขามป้อมนั้นจะมีความคงสภาพสูงมาก เนื่องด้ววยตัวของมันมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุดมากกว่า 90% สารสกัดจาดชนิดเหลงเป็นสารต้านอนุมูลอิระได้ทั้งหมด
นอกจากนี้มะขามป้อมยังมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว จึงมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของสูตรตำรับทางยาอายุรเวชที่ช่วยในการบรรเทาสิว ฤทธิ์ฝาดสมานและฤทธิ์ต้านอักเสบ ช่วยให้สิวยุบตัวเร็วขึ้น รวมทั้งมะขาวป้อมยังมีคุณสมบัติในการป้องผิวจากแสงแดด ทั้งนี้เพราะมะขามป้อม สามารถจับกับ Copper และ Iron ได้ Embliac จึงเหมาะที่จะใช้ปรับสีผิวให้ขาวขึ้นทั้งในกรณีผิวปกติและผิวที่คล้ำจากแสงแดด
บำรุงร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า เนื่องจากมะขามป้อมมีสารอาหารมากมาย ที่ช่วยบำรุงทั้งผม สมอง ดวงตา คอ หลอดลม ปอด หัวใจ ตับ ตับอ่อน ไต กระเพาะ ลำไส้ และผิวหนัง แถมยังช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย บำรุงกำลัง บำรุงเลือด ลดความดันเลือดสูง และปรับประจำเดือนให้มาปกติได้ จึงบอกได้เลยว่าการทานมะขามป้อมช่วยบำรุงร่างกายเราให้ดีขึ้นได้แทบทุกส่วนจริง ๆ ค่ะ "แต่จะดีกว่ามั๊ยถ้าเราสามารถใช้สารสกัดเข้มข้นของมะขามป้อมมาบำรุงผิวพรรณให้เด่นแบบมีออร่าได้โดยตรงและเห็นผลได้เร็วกว่าการรับประทาน" https://www.instagram.com/peely_aura/?hl=th
บำรุงร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า เนื่องจากมะขามป้อมมีสารอาหารมากมาย ที่ช่วยบำรุงทั้งผม สมอง ดวงตา คอ หลอดลม ปอด หัวใจ ตับ ตับอ่อน ไต กระเพาะ ลำไส้ และผิวหนัง แถมยังช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย บำรุงกำลัง บำรุงเลือด ลดความดันเลือดสูง และปรับประจำเดือนให้มาปกติได้ จึงบอกได้เลยว่าการทานมะขามป้อมช่วยบำรุงร่างกายเราให้ดีขึ้นได้แทบทุกส่วนจริง ๆ ค่ะ "แต่จะดีกว่ามั๊ยถ้าเราสามารถใช้สารสกัดเข้มข้นของมะขามป้อมมาบำรุงผิวพรรณให้เด่นแบบมีออร่าได้โดยตรงและเห็นผลได้เร็วกว่าการรับประทาน" https://www.instagram.com/peely_aura/?hl=th


























